การทำวิจัยปริญญาโท
เทคนิค เคล็ดลับ การทำวิจัยปริญญาโท
การทำวิจัยปริญญาโท เป็นเงื่อนไขสำคัญของการสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท หรือระดับมหาบัณฑิต ทุกคณะและทุกมหาวิทยาลัย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะมีการกำหนดเงื่อนไขสำคัญประการหนึ่งของการสำเร็จการศึกษา คือ นอกจากการเรียนในรายวิชา ตามหน่วยกิตของแต่ละสาขาที่กำหนดไว้
การเรียนในระดับปริญญาโท หรือ มหาบัณฑิตจะต้องผ่านการทำวิจัย ซึ่งมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามความยากง่าย หรือตามแผนการศึกษา เช่น วิทยานิพนธ์ สารนิพนธ์ ปริญญานิพนธ์ การศึกษาค้นคว้าอิสระ (Independent Study:IS) รวมถึง แผนธุรกิจ การวิเคราะห์โครงการ โปรเจคจบ ต่างๆ
การวิจัย หมายถึง “การค้นคว้าเพื่อหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนตามหลักวิชา เป็นกระบวนการค้นคว้าหาข้อเท็จจริงหรือปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ การค้นคว้าหาความรู้ใหม่อย่างมีระบบ ระเบียบ และมีจุดมุ่งหมายที่แน่นอน เพื่อ ให้ได้ความรู้ที่เชื่อถือได้มีเหตุมีผลเป็นไปตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ การวิจัย ยังหมายถึง กระบวนการ ค้นหาแล้วค้นหาอีก หาจนกระทั่งมั่นใจได้ว่าได้ข้อเท็จจริงในเรื่องนั้น จนถี่ถ้วน รวมถึงวิธีแก้ปัญหาที่มีระบบแบบแผนเชื่อถือได้ เพื่อให้เกิดความรู้ที่เชื่อถือได้
วัตถุประสงค์ของการทำวิจัย
โดยทั่วไป การทำวิจัย รวมถึงการทำวิจัยปริญญาโท จะมีเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ของการทำวิจัยใกล้เคียงกันหรือเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ
1. เพื่อใช้ในการพยากรณ์หรือการคาดการณ์ผลลัพธ์ ผลการทดลอง หรือผลที่ได้จากการวิจัยจะสามารถนำไปใช้เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่สนใจสามารถที่จะนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจเบื้องต้นเพื่อการเตรียมตัว การวางแผน การกำหนดนโยบายต่าง เช่น การทำวิจัยเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราผลตอบแทนในตลา่ดหลักทรัพย์ ซึ่งผลการศึกษาหรือผลวิจัยที่ได้ จะทำให้นักลงทุนหรือประชาชนที่สนใจลงทุน สามารถคาดการณ์ว่าควรเลือกที่จะลงทุนหรือไม่อย่างไรภายใต้การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นในปัจจุบันหรือในช่วงเวลาที่ผ่านมา
2. ผลการวิจัยสามารถใช้ในการอธิบาย ปรากฎการณ์ ปัญหาหรือ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ยังไม่ทราบสาเหตุว่า สิ่งใดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผลหรือสิ่งใดเป็นผลที่ทำให้เกิดสาเหตุนั้น ๆ เช่น การวิจัยหาสาเหตุที่ทำให้บุคลากรลาออกจากองค์การ ผลที่ได้จากการวิจัยจะสามารถนำมาอธิบายได้ว่า มีอะไรบ้างที่เป็นสาเหตุที่ทำให้บุคลากรลาออก เป็นต้น
5 เทคนิคการทำวิจัยปริญญาโท
- เลือกชื่อเรื่อง หรือ หัวข้อวิจัย ที่น่าสนใจ : ควรเลือกหัวข้อวิจัยที่ทันสมัย และได้รับความสนใจจากสาธารณชนทั้งในแวดวงวิชาการเอง หรือความสนใจของประชาชนทั่วไป เช่น ในสถานการณ์ปัจจุบัน ควรพิจารณาว่าเนื้อหาวิชาที่เราศึกษาอยู่ สามารถกำหนดหัวข้อวิจัยที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 , การเกิดความขัดแย้งระหว่างภูมิรัฐศาสตร์ ยูเครน-รัสเซีย หรือ การได้รับผลกระทบจากการทุ่มตลาดของสินค้าจากประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น จีน เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษจากคณะกรรมการที่อนุมัติงานวิจัย
- การทบทวนวรรณกรรม (Literature Review): การทบทวนวรรณกรรมจะเกี่ยวข้องกับ แนวคิด หลักการ ทฤษฎี รวมไปถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยจะต้องเป็นเนื้อหา เป็นความรู้ที่เกี่ยวข้องกับชื่อเรื่องที่ได้กำหนดไว้แล้ว (ในขั้นตอนที่1) ทั้งนี้ การรีวิวเนื้อหาจะต้องให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของเอกสารวิชาการที่จะต้องใช้ในการอ้างอิงเป็นสำคัญ และไม่ควรเป็นการอ้างอิงที่ล้าสมัยหรือเก่าเกินไป และจะต้องมีทั้งงานวิจัยในประเทศและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมให้งานวิจัยของเรามีความน่าเชื่อถือ
- การหาช่องว่างการวิจัย หรือ Research Gap: โดยทั่วไปการที่นักวิจัยหรือผู้ทำวิจัยจะสามารถหา Research Gap ได้นั้น จะต้องอ่าน ศึกษา ทั้งแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนที่ผ่านมาจนแตกฉาน เข้าใจอย่างถ่องแท้ หรือตกผลึก จนสามารถที่จะหาช่องว่าง หรือ การต่อยอดงานวิจัยเก่าๆ เหล่านั้นให้มีความทันสมัยและมีประโยชน์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากการทำวิจัยโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายสังคมศาสตร์ มักจะมีงานวิจัยอื่นๆ ที่เคยทำไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว หากเรามีความสนใจที่จะทำงานวิจัยที่ใกล้เคียง กับงานวิจัยในอดีต ควรหาแง่มุมหรือประเด็นที่แตกต่างออกไป เพื่อเพิ่มคุณค่าทางวิชาการมากยิ่งขึ้น
- การทำความเข้าใจกับสถิติที่ถูกต้อง: บ่อยครั้งที่นักวิจัยประสบกับปัญหาและความล่าช้าในการทำวิจัย จากปัญหาการเลือกสถิติที่ถูกต้อง ซึ่งวิธีการที่ง่ายและเร็วที่สุด คือ ผู้วิจัยอาจพิจารณาได้จากการอ่านงานวิจัยเล่มอื่นๆ ที่ได้รีวิวมาพอสมควรแล้ว และจะเห็นการเลือกใช้สถิติที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบสมมติฐานนั้นๆ เช่น การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way Anova) การวิเคราะห์การถดถอย (Regression) การวิเคราะห์องค์ประกอบ ฯลฯ
- การเลือกใช้โปรแกรมวิเคราะห์สถิติที่เหมาะสม: นอกจากปัญหาการเลือกสถิติ การเลือกแบบจำลองต่างๆแล้ว ปัญหาที่พบอีกประการหนึ่งของผู้ทำวิจัยคือการเลือกใช้โปรแกรม หรือความรู้ความเข้าใจ ทักษะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้โปรแกรมวิเคราะห์สถิติเหล่านี้ เช่น SPSS STATA SAS EVIEW AMOS หรือ LISREL โดยแต่ละโปรแกรมจะมีความเหมาะสมหรือประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลแต่ละประเภทอาจจะใกล้เคียงกัน แต่บางโมเดล บางแแบบจำลอง จำเป็นต้องใช้โปรแกรมที่ถูกออกแบบและพัฒนามาเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลประเภทนั้นโดยเฉพาะ เช่น โปรแกรม EVIEW ที่เหมาะสำหรับข้อมูลอนุกรมเวลา งานวิจัยด้านการเงิน งานวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์ เป็นต้น
Tags : รับปรึกษางานวิจัย รับติวงานวิจัย รับสอนงานวิจัย รับทำวิจัย รับทำงานวิจัย รับทำสารนิพนธ์ รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับจ้างทําวิจัย รับจ้างทำสารนิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำ thesis รับทำสารนิพนธ์ราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ราคาถูก รับทำดุษฎีนิพนธ์ราคาถูก รับทำวิจัย ป.โท รับทำวิจัย ป.เอก รับทำวิจัย ราคา รับทำวิจัยth รับทำสารนิพนธ์th รับทำวิทยานิพนธ์th รับทำดุษฎีนิพนธ์th การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำสารนิพนธ์ จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทำงานวิจัย จ้างทำวิจัยราคา จ้างทำวิจัยราคาประหยัด จ้างทำวิจัยราคาเท่าไหร่ ทำวิจัย ทำสารนิพนธ์ ทำวิทยานิพนธ์ ทำดุษฎีนิพนธ์ ทำปริญญานิพนธ์ ทำผลงาน ทำผลงานปรับระดับ ทำผลงานปรับตำแหน่ง การทำผลงานเลื่อนวิทยฐาน เทคนิควิจัยปริญญาเอก
การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย